เมนู

ปฐวีสันธารกปัญหา ที่ 7


ราชา

สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดี มีพระราชโองการตรัสถามว่า ภนฺเต นาค-
เสน
ข้าแต่พระนาคเสนผู้เป็นเจ้าอันประกอบไปด้วยปรีชา ตุมฺเห ภณเถ พระผู้เป็นเจ้าวิสัชนาไว้
กับโยมว่า ลมรองน้ำ น้ำรองแผ่นดิน นี่แหละคำอันนี้โยมจะเชื่อหามิได้ ภายใต้ลมเป็น
อากาศเปล่าด้วยเล่า เออ น้ำจะตั้งอยู่กับอะไร
พระนาคเสนเมื่อจะวิสัชนาแก้ไข จึงเอาธมกรกตักอุทกังแล้วก็เอามือปิดปากธมกรกไว้
มิให้อุทกังไหลลงได้ ถือไว้พระเจ้ามิลินท์ปิ่นกษัตริย์ทัศนาการทอดพระเนตร จึงถวายพระพร
ว่า มหาบพิตรจงทรงสังเกตดูธมกรกนี้เถิด ลมทรงไว้ซึ่งอุทกังฉันใด ลมที่รองอุทกังอันรอง
แผ่นดินก็เหมือนกัน ขอถวายพระพร
พระเจ้ากรุงมิลินท์ปิ่นประชากร ทรงฟังก็โสมนัสตรัสว่า กลฺโลสิ สมควรแล้ว พระผู้เป็นเจ้า
ปฐวีสันธารกปัญหา คำรบ 7 จบเท่านี้

นิโรธนิพพานปัญหา ที่ 8


ราชา

สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินราธิบดีพระราชโองการถามว่า ภนฺเต นาคเสน
ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้านาคผู้เจริญ นิโรโธ อันว่านิโรธนี้หรือ ชื่อว่านิพพาน
พระนาคเสนรับพระราชโองการว่า มหาราช ขอถวายพระพร นิโรโธ อันว่านิโรธ
สมเด็จพระชิเนนทรโปรดไว้ว่านิพพาน
สมเด็จพระเจ้ามิลินทราชมีพจนารถโองการถามว่า ภนฺเต นาคเสน ข้าแต่พระนาคเสน
ผู้เป็นเจ้า ยังไรกระนั้นเจ้าข้า โยมให้กังขาสงสัย นิมนต์วิสันชาให้แจ้งก่อน
พระนาคเสนถวายพระพรว่า มหาราช ดูรายะบพิตรพระราชสมภาร สพฺเพ พาล-
ปุถุชฺชนา
อันว่าพาลปุถุชนทั้งหลายอันเวียนตายเวียนเกิดอยู่ในกาลทั้ง 3 คือ อดีต อนาคต
ปัจจุบันกาลนี้ ย่อมมายินดีในอายตนะภายนอกภายใน คือยินดีในรูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพ-
พารมณ์ นิยมยกเบญจกามคุณว่าประเสริฐ ก็พากันเกิดตายว่ายเวียนอยู่ตามกระแสดโลกีย์ อัน
เป็นอายตนะภายนอกภายใน มิได้พ้นไปจากชาติทุกข์ ชราทุกข์ พยาธิทุกข์ มรณทุกข์ มีความ

โศกและปริเทวทุกข์ และโทมนัสขัดเคืองใจ น ปริมุจฺจนฺติ มิได้พ้นจากกองทุกข์เลย
ขอถวายพระพร ฝ่ายพระอริยสาวกผู้มีศีลสังวร มิได้ยินดีในอายตนะภายนอกภายใน คือรูป
เสียงกลิ่นรสโผฏฐัพพารมณ์ มิได้สรรเสริญเชยชมว่าดี มิได้มีความรักใคร่ กระทำใจเบื่อหน่าย
มิได้ปรารถนา ก็ดับซึ่งตัวตัณหา ดับอุปทาน ดับภพ ดับชาติ ดับชราทุกข์มรณทุกข์โสกทุกข์
ดับโทมนัสสุปายาสทุกข์สิ้น ดับซึ่งกิเลสทุกขขันธขาดจากสันดานเป็นสมุจเฉทประหาน ดุจ
ต้นตาลมียอดอันขาดมิได้กลับเกิดได้ ดังนี้แหละเรียกว่าองค์พระนิโรธ พระพุทธฎีกาโปรดไว้ว่า
นิพพาน ขอถวายพระพร
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดี มีพระทัยโสมนัสตรัสว่า กลฺโลสิ พระผู้เป็นเจ้า
วิสัชนามานี้สมควรแล้ว
นิโรธนิพพานปัญหา คำรบ 8 จบเท่านี้

นิพพานลภนปัญหา ที่ 9

ราชา

สมเด็จพระเจ้ากรุงมิลินท์ภูมินทราธิบดีมีพระราชโองการตรัสถามว่า ภนฺเต นาค-
เสน
ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้านาคเสนผู้เจริญด้วยปรีชา ตกว่าคนทั้งหลายนี้ได้นิพพานด้วยกันสิ้น
หรือประการใด
พระนาคเสนถวายพระพรว่า ไม่ได้ด้วยกันทั้งสิ้น
พระเจ้ากรุงมิลินท์ปิ่นกษัตริย์ตรัสถามว่า เหตุไฉนจึงไม่ได้
พระนาคเสนจึงวิสัชนาแก้ไขว่า มหาราช ขอถวายพระพรบพิตรพระราชสมภารผู้ประ
เสริฐ คนทั้งหลายเกิดมา จะได้พระนิพพานสิ้นด้วยกันหามิได้ สมฺมาปฏิปนฺโน อภิญฺเญยฺย
ต่อเมื่อไรปรนนิบัติเป็นสัมมาปฏิบัติไปให้รู้ธรรมอันวิเศษ ได้ธรรมอันวิเศษ ดำริจิตจะจำเริญซึ่ง
วิเศษนั้น ปหาตพฺเพ ธมฺเม ปชหนฺโต จะเสียซึ่งธรรมอันลามา ภาเวนฺโต ยกจิตจำเริญซึ่ง
ภาเวตัพพธรรม คือจำศีลภาวนาไป สจฺฉิกโรนฺโต กระทำให้แจ้งซึ่งธรรมอันควรจะกระทำให้
แจ้งนั้น คืออรหัตผลญาณ ก็จะได้พระนิพพานด้วยประการฉะนี้ ขอถวายพระพร
สมเด็จพระเจ้ามิลินท์ภูมินทราธิบดีก็ทรงพระโสมนัสตรัสว่า กลฺโลสิ ผู้เป็นเจ้ากล่าว
นี้สมควรแล้ว
นิพพานลภนปัญหา คำรบ 9 จบเท่านี้